ฝนดาวตกเจมินิดส์

ฝนดาวตกเจมินิดส์

ฝนดาวตกเจมินิดส์ (Geminid meteor shower) เป็นหนึ่งในฝนดาวตกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดประจำปี ฝนดาวตกเจมินิดส์ 2565 เกิดขึ้นจากเศษหินและเศษฝุ่นขนาดน้อยใหญ่ที่ดาวเคราะห์น้อย 3200 เฟธอน (3200 Phaethon) ทิ้งไว้ในขณะเคลื่อนผ่านเข้ามาในระบบสุริยะชั้นใน เมื่อโลกโคจรผ่านเส้นทางดังกล่าว แรงดึงดูดของโลกจะดึงเศษหินและฝุ่นเข้ามาเผาไหม้ใน ชั้นบรรยากาศ โลกเกิดเป็นลำแสงวาบ หรือในบางครั้งเกิดเป็นลูกไฟขนาดใหญ่เรียกว่า (Fireball)

ฝนดาวตกเจมินิดส์ จะเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 4-17 ธันวาคมของทุกปี โดยจะมีอัตราการตกสูงสุดในคืนวันที่ 14 ธันวาคม ประมาณ 150 ดวงต่อชั่วโมง จุดศูนย์กลางการกระจายของ ฝนดาวตกเจมินิดส์ อยู่บริเวณกลุ่มดาวคนคู่ (Gemini) ดังนั้นหากต้องการชมฝนดาวตกเจมินิดส์ ควรมองไปทางทิศตะวันออกในช่วงค่ำคืน สำหรับในประเทศไทย ฝนดาวตก เจมินิดส์ ฝนดาวตก 14 ธันวาคม 2565 สามารถมองเห็นได้ทั่วทุกภาคของประเทศ โดยจะเริ่มมองเห็นได้ตั้งแต่เวลาประมาณ 2 ทุ่มเป็นต้นไป

ต้นกำเนิดของฝนดาวตกเจมินิดส์

ฝนดาวตกเจมินิดส์ เกิดจากเศษหินและฝุ่นละอองขนาดเล็กที่ ดาวเคราะห์น้อย 3200 เฟธอน (3200 Phaethon) ทิ้งไว้ขณะโคจรผ่านเข้ามาในระบบสุริยะชั้นใน เมื่อโลกโคจรผ่านเส้นทางดังกล่าว แรงดึงดูดของโลกจะดึงเศษหินและฝุ่นละอองเข้ามาเผาไหม้ในชั้นบรรยากาศโลกเกิดเป็นลำแสงวาบ หรือในบางครั้งเกิดเป็นลูกไฟขนาดใหญ่ที่เรียกว่า (Fireball)

ดาวเคราะห์น้อย 3200 เฟธอน มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 5 กิโลเมตร อยู่ในบริเวณวงโคจรของ ดาวอังคาร และ ดาวพฤหัสบดี โคจรรอบดวงอาทิตย์ใช้เวลาประมาณ 1.4 ปี มีลักษณะเป็นดาวเคราะห์น้อย ขนาดเล็กที่มีแกนกลางขนาดใหญ่ เปลือกบาง และหางที่เกิดจากการพุ่งชนของดาวเคราะห์น้อยขนาดเล็ก ดาวตกเจมินิดส์ เป็นฝนดาวตกที่ได้รับความนิยมในการชม เนื่องจากมีอัตราการตกสูง มองเห็นได้ทั่วทุกภาคของประเทศ และมีโอกาสเห็นดาวตกที่สว่างมาก ๆ หรือที่เรียกว่า Fire Ball ได้

ฝนดาวตกเจมินิดส์

ลักษณะของฝนดาวตกเจมินิดส์

  • อัตราการตกสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 150 ดวงต่อชั่วโมง
  • มองเห็นได้รอบทิศ
  • จุดศูนย์กลางการกระจายอยู่บริเวณกลุ่มดาวคนคู่ (Gemini) ทางทิศตะวันออก
  • ความเร็วของ ดาวตก ไม่มากนัก
  • มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

ส่วนประกอบของฝนดาวตกเจมินิดส์

  • ฝนดาวตกเกิดจาก ดาวเคราะห์น้อย 3200 เฟธอน (3200 Phaethon) ซึ่งเป็นดาวเคราะห์น้อยแบบเศษซากที่มีวงโคจรคล้าย ดาวหาง โคจรรอบดวงอาทิตย์ ทุกๆ 1.4 ปี ดาวเคราะห์น้อย 3200 เฟธอนมีเศษหินและเศษฝุ่นขนาดใหญ่จำนวนมหาศาลตกค้างอยู่ตามเส้นทางโคจร เมื่อโลกโคจรผ่านเส้นทางดังกล่าว แรงดึงดูดของโลกจะดึงดูดเศษหินและเศษฝุ่นเหล่านี้เข้าสู่ ชั้นบรรยากาศของโลก เกิดการเสียดสีและลุกไหม้เกิดเป็นลำแสงวาบสว่างบนท้องฟ้า
  • จุดศูนย์กลางการกระจาย ฝนดาวตกเจมินิดส์มีจุดศูนย์กลางการกระจายอยู่บริเวณกลุ่มดาวคนคู่ (Gemini) ดังนั้นจึงเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “ฝนดาวตกกลุ่มดาวคนคู่” โดยทั่วไปแล้ว ฝนดาวตกเจมินิดส์จะปรากฏให้เห็นได้ในช่วงวันที่ 8-16 ธันวาคม โดยวันที่ 14 ธันวาคมเป็นวันที่มองเห็นได้ชัดเจนที่สุด

การเคลื่อนที่ของฝนดาวตกเจมินิดส์

การเคลื่อนที่ของ ดาวตกคือ เกิดจากการที่โลกโคจรตัดผ่านสายธารของเศษหินและเศษฝุ่นขนาดน้อยใหญ่ของดาวเคราะห์น้อย 3200 เฟธอน ซึ่ง โคจรรอบดวงอาทิตย์ ทุกๆ 1.4 ปี ลักษณะการเคลื่อนที่ของ ฝนดาวตกเจมินิดส์ ดาวตกส่วนใหญ่จะมีความเร็วไม่สูงมากนัก ประมาณ 35 กิโลเมตรต่อวินาที จึงทำให้มองเห็นได้ง่ายกว่าฝนดาวตกชนิดอื่นๆ ดาวตกส่วนใหญ่จะปรากฏขึ้นจากจุดศูนย์กลางการกระจายบริเวณกลุ่มดาวคนคู่ จากนั้นจะกระจายตัวออกสู่ท้องฟ้าทั่วทุกทิศทาง

ฝนดาวตกเจมินิดส์

เคล็ดลับในการชมฝนดาวตกเจมินิดส์

  • เลือกสถานที่ชมที่มืดสนิท ไม่มีแสงไฟรบกวน
  • นอนชมด้วยตาเปล่า เนื่องจากฝนดาวตกกระจายทั่วท้องฟ้า
  • มองไปทางทิศตะวันออก เนื่องจากศูนย์กลางการกระจายอยู่บริเวณกลุ่มดาวคนคู่
  • อดทนรอคอย เนื่องจากอาจต้องใช้เวลาสักครู่จึงจะสามารถมองเห็นฝนดาวตกได้

ติดตามข่าวสารได้ที่นี่ : https://AstronomyMoon.com

อ่านบทความเพิ่มเติม : ดาวตกคือ

ศึกษาเกี่ยวกับ : ดาวหาง