ดาวเนปจูน ดาวเคราะห์ลำดับที่ 8 ในระบบสุริยะ
ดาวเนปจูน (Neptune) เป็นดาวเคราะห์ในระบบสุริยะ อยู่ห่างจากดวงอาทิตย์เป็นลำดับที่ 8 และมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางใหญ่เป็นอันดับที่ 4 รองจากดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร์ และดาวยูเรนัส และมีมวลเป็นลำดับที่ 3 รองจากดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์ ดาวเนปจูน ฉายา ‘’ ดาวสมุทร ‘’ และคำว่า ” เนปจูน ” นั้นตั้งชื่อตามเทพเจ้าแห่งท้องทะเลของโรมันเหนือ ดาวเนปจูนเป็น ดาวเคราะห์สีน้ำเงิน เนื่องจากองค์ประกอบหลักของบรรยากาศผิวนอกเป็น ไฮโดรเจน ฮีเลียม และมีเทน บรรยากาศของดาวเนปจูน มีกระแสลมที่รุนแรง (2,500 กม/ชม.) อุณหภูมิพื้นผิวอยู่ที่ประมาณ -218 องศาเซลเซียส (-364 องศาฟาเรนไฮต์) ซึ่งหนาวเย็นมาก เนื่องจาก ดาวเนปจูน อยู่ไกลดวงอาทิตย์มาก แต่แกนกลางภายในของดาวเนปจูน ประกอบด้วยหินและก๊าซร้อน อุณหภูมิประมาณ 7,000 องศาเซลเซียส (12,632 องศาฟาเรนไฮต์) ซึ่งร้อนกว่าพื้นผิวของดวงอาทิตย์
ชั้นบรรยากาศของดาวเนปจูน
ดาวเนปจูนเป็น ดาวเคราะห์แก๊ส ที่มีชั้นบรรยากาศหนาทึบ ประกอบด้วยแก๊สไฮโดรเจน 79% ฮีเลียม 18% และมีเทน 3% แก๊สมีเทนใน ชั้นบรรยากาศ นี่เองที่เป็นตัวดูดกลืนแสงสีแดงพร้อมทั้งสะท้อนแสงสีน้ำเงินทำให้เรามองเห็นดาวเนปจูนปรากฏเป็นสีน้ำเงิน กระแสลมบน ดาวเนปจูน มีความเร็วสูงมาก ประมาณ 2,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ความเร็วลมที่สูงเช่นนี้เกิดจากการหมุนรอบตัวเองของดาวเนปจูนที่เร็วมาก ใช้เวลาหมุนรอบตัวเองครบรอบ 16 ชั่วโมง ดาวเนปจูนมีพายุหมุนขนาดใหญ่บนพื้นผิว เรียกว่า “จุดดำใหญ่” (Great Dark Spot) มีขนาดประมาณ 13,000 กิโลเมตร คล้ายกับจุดแดงใหญ่บนดาวพฤหัสบดี จุดดำใหญ่เป็นพายุหมุนที่มีอายุยาวนานหลายปี ข้อมูลดาวเนปจูน นอกจากนี้ยังมีวงแหวนรอบดาว ประกอบด้วยน้ำแข็งและฝุ่น วงแหวนของดาวเนปจูนมีความหนาแน่นน้อยกว่าวงแหวนของดาวเคราะห์แก๊สดวงอื่น ๆ ใน ระบบสุริยะ
ข้อมูลทั่วไปของดาวเสาร์
- ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 24,764 กม.
- ระยะห่างจากดวงอาทิตย์เฉลี่ย 4,495.06 ล้าน กม.
- การโคจรรอบดวงอาทิตย์ 164.79 ปีของโลก
- การหมุนรอบตัวเอง 16.1 ชั่วโมง
- อุณหภมิพื้นผิวเฉลี่ย -218 องศาเซลเซียส
- ดาวบริวาร 14 ดวง
วงแหวนของดาวเนปจูน
ลักษณะของดาวเนปจูน เป็นดาวเคราะห์ที่มีวงแหวนล้อมรอบ ประกอบด้วยอนุภาคขนาดเล็ก ส่วนใหญ่เป็นฝุ่นขนาด 1 ไมโครเมตร จนถึงขนาดประมาณ 10 เมตร เช่นเดียวกับวงแหวนของดาวพฤหัสบดีและดาวยูเรนัส วงแหวน ของดาวเนปจูนมีความหนาแน่นต่ำมาก อนุภาคในวงแหวนมีระยะห่างเฉลี่ยกันประมาณ 100 กิโลเมตร วงแหวนเหล่านี้จึงมองเห็นได้ยากจากโลก แต่วงแหวนของ ดาวเนปจูน ถูกค้นพบครั้งแรกในปี ค.ศ. 1989 โดยยานอวกาศวอยเอเจอร์ 2 ของนาซา ในขณะบินผ่านดาวเนปจูน ยานวอยเอเจอร์ 2 ได้ถ่ายภาพวงแหวนของ ดาวเนปจูน ไว้ได้ 5 วง ได้แก่
- วงแหวนแอดัมส์ (Adams ring)
- วงแหวนอราโก (Arago ring)
- วงแหวนแลสเซลล์ (Lassell ring)
- วงแหวนเลอ แวรีเย (Le Verrier ring)
- วงแหวนกัลเลอ (Galileo ring)
ดาวบริวารของดาวเนปจูน
ดาวบริวารของดาวเนปจูน ที่ใหญ่ที่สุดคือ ไทรทัน มีขนาดใหญ่กว่าดวงจันทร์ของโลกประมาณ 1.7 เท่า โคจรรอบดาวเนปจูน ในระยะเวลาประมาณ 6 วัน 7 ชั่วโมง 36 นาที เป็นหนึ่งใน ดาวบริวาร ที่ใหญ่ที่สุดในระบบสุริยะที่มีวงโคจรย้อนกลับ (retrograde orbit) ไทรทันมีพื้นผิวที่มีลักษณะคล้ายกับดาวพลูโต คาดว่าไทรทันเคยเป็นดาวเคราะห์น้อยที่ถูกดาวเนปจูนจับมาเป็นดาวบริวาร ดาวเนปจูนมีดาวบริวารที่ค้นพบแล้ว 14 ดวง แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มตามลักษณะการโคจร ดังนี้
- ดาวบริวารปกติ (regular satellites) โคจรรอบดาวเนปจูนในทิศทางเดียวกับการหมุนของดาวเนปจูน มีวงโคจรเป็นวงรีที่มีวงโคจรค่อนข้างกลม แบ่งออกเป็น 6 ดวง ได้แก่ เนแอด, ทาแลสซา, ดีสพีนา, แกลาเทีย, ลาริสซา, S/2004 N 1 และ โพรเทียส
- ดาวบริวารผิดปกติ (irregular satellites) โคจรรอบดาวเนปจูนในทิศทางตรงข้ามกับการหมุนของดาวเนปจูน มีวงโคจรเป็นวงรีที่มีความเยื้องและความเอียงของวงโคจรสูง มีบางดวงที่โคจรสวนทางกับวงโคจรของโลก แบ่งออกเป็น 7 ดวง ได้แก่ ไทรทัน, นีรีด, แฮลิมีดี, เซโอ, เลโอมีเดีย, แซมาที และนีโซ
สนามแม่เหล็กของดาวเนปจูน
สนามแม่เหล็ก ของดาวเนปจูนเป็นสนามแม่เหล็กที่ทรงพลังที่สุดเป็นอันดับสี่ในระบบสุริยะ แรงสนามแม่เหล็กที่ขั้วของดาวเนปจูนสูงถึง 27 gauss เทียบเท่ากับสนามแม่เหล็กของโลกที่ขั้วเหนือและใต้ 1.3 gauss และมากกว่าสนามแม่เหล็กของดาวยูเรนัสถึง 28 เท่า สนามแม่เหล็กของดาวเนปจูนไม่สมมาตร แกนแม่เหล็กของดาวเนปจูนเอียงออกจากแกนหมุนรอบตัวเอง 47 องศา และสนามแม่เหล็กไม่ได้อยู่ในแนวศูนย์กลางดวง
แต่จะอยู่ในโครงสร้างภายในตัวดาวชั้นนอก นักดาราศาสตร์ จึงสันนิษฐานว่าสนามแม่เหล็กนี้ อาจเกิดจากการไหลเวียนของน้ำ และสสารในบริเวณแกนชั้นนอกของดาว สนามแม่เหล็กของดาวเนปจูนมีบทบาทสำคัญในการปกป้องดาวเนปจูนจากลมสุริยะ ลมสุริยะเป็นกระแสของอนุภาคที่มีประจุไฟฟ้าที่ปล่อยออกมาจากดวงอาทิตย์ ลมสุริยะ สามารถทำให้ชั้นบรรยากาศของดาวเคราะห์ร้อนขึ้น และอาจทำให้ชั้นบรรยากาศของดาวเคราะห์หายไปได้ สนามแม่เหล็กของดาวเนปจูนช่วยป้องกันลมสุริยะไม่ให้เข้าสู่ชั้นบรรยากาศของ
ดาวเนปจูน ช่วยให้ดาวเนปจูนสามารถรักษาชั้นบรรยากาศไว้ได้ นอกจากนี้ สนามแม่เหล็กของดาวเนปจูนยังทำให้เกิดปรากฏการณ์แสงเหนือและแสงใต้บนดาวเนปจูน แสงเหนือและแสงใต้ของดาวเนปจูนเกิดจากอนุภาคที่มีประจุไฟฟ้าจากลมสุริยะถูกดักจับโดยสนามแม่เหล็กของดาวเนปจูนและชนกับชั้นบรรยากาศของดาวเนปจูน
ติดตามข่าวสารได้ที่นี่ : https://AstronomyMoon.com
อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติม : ดาวยูเรนัส
ศึกษาเกี่ยวกับ : ระบบสุริยะจักรวาล