นักดาราศาสตร์

นักดาราศาสตร์ (Astronomer) หรือ นักวิทยาศาสตร์

นักดาราศาสตร์ (Astronomer) คือ นักวิทยาศาสตร์ ที่ทำการค้นคว้าหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับดาราศาสตร์หรือฟิสิกส์ดาราศาสตร์ มีหน้าที่ศึกษาปรากฏการณ์ทาง ดาราศาสตร์ ที่เกิดขึ้นจากนอกชั้นบรรยากาศของโลก และพัฒนาองค์ความรู้เพื่อแก้ปัญหาเกี่ยวกับการสื่อสารผ่านดาวเทียม นักดาราศาสตร์ เป็นอาชีพที่ท้าทายและน่าสนใจ ผู้ที่ประกอบอาชีพนี้มีโอกาสได้เรียนรู้เกี่ยวกับเอกภพและมีส่วนร่วมในการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ใหม่ๆ อย่างไรก็ตาม อาชีพนี้ยังต้องการทักษะและความมุ่งมั่นในการทำงานสูงอีกด้วย เรามาดูกันว่า นักดาราศาสตร์ นักวิทยาศาสตร์ มีใครกันบ้างเลยดีกว่า

นักดาราศาสตร์

เซอร์ ไอแซก นิวตัน (Sir Isaac Newton)

เซอร์ ไอแซก นิวตัน เป็นนักฟิสิกส์ นักคณิตศาสตร์ นักดาราศาสตร์ นักปรัชญาธรรมชาติ นักเล่นแร่แปรธาตุ และนักเทววิทยาชาวอังกฤษ เขาได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในนักวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ นิวตันเกิดเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ค.ศ. 1642 ที่หมู่บ้านวูลสธอร์พ แคว้นลินคอล์นเชียร์ ประเทศอังกฤษ เขากำพร้าบิดาตั้งแต่เกิดและอาศัยอยู่กับยาย เมื่ออายุได้ 12 ปี นิวตันเข้าเรียนที่โรงเรียน The King’s School ในเมืองเกรนแฮม เขาได้ศึกษาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์จนเก่งกาจและได้รับทุนเข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ นิวตันได้ศึกษาคณิตศาสตร์และฟิสิกส์ เขาสนใจเป็นพิเศษในผลงานของกาลิเลโอ 

กาลิเลอี โยฮันเนิส เค็พเพลอร์ และเรอเน เดการ์ต ระหว่างที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ปิดทำการเนื่องจากกาฬโรคระบาด ในปี ค.ศ. 1665-1666 นิวตันใช้เวลาส่วนใหญ่ในการวิจัย เขาค้นพบทฤษฎีแคลคูลัส กฎการเคลื่อนที่สามข้อ และทฤษฎีแรงโน้มถ่วงสากล ทฤษฎีแคลคูลัสของนิวตันเป็นเครื่องมือที่สำคัญสำหรับคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ กฎการเคลื่อนที่สามข้อของเขาอธิบายการเคลื่อนไหวของวัตถุในอวกาศ และทฤษฎีแรงโน้มถ่วงสากลของเขาอธิบายแรงดึงดูดระหว่างวัตถุสองชิ้นที่มีมวล ผลงานของนิวตันได้ปฏิวัติความเข้าใจของเราเกี่ยวกับจักรวาล เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ก่อตั้งฟิสิกส์คลาสสิก ซึ่งยังคงเป็นพื้นฐานของความเข้าใจของเราเกี่ยวกับจักรวาลในปัจจุบัน

กาลิเลโอ กาลิเลอี (Galileo Galilei)

กาลิเลโอ กาลิเลอี (Galileo Galilei) เป็น นักดาราศาสตร์ นักฟิสิกส์ และวิศวกรชาวอิตาลี เกิดเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1564 ที่เมืองปิซา ประเทศอิตาลี เสียชีวิตเมื่อวันที่ 8 มกราคม ค.ศ. 1642 ที่เมืองอาร์เชตรี ประเทศอิตาลี กาลิเลโอได้รับการยกย่องว่าเป็น “บิดาแห่งดาราศาสตร์สมัยใหม่” “บิดาแห่งฟิสิกส์สมัยใหม่” “บิดาแห่งวิทยาศาสตร์” และ “บิดาแห่งวิทยาศาสตร์ยุคใหม่” ผลงานของเขามีมากมาย งานที่โดดเด่นเช่นการพัฒนาเทคนิคของกล้องโทรทรรศน์และผลสังเกตการณ์ทาง ดาราศาสตร์ คือ ที่สำคัญจากกล้องโทรทรรศน์ที่พัฒนามากขึ้น 

งานของเขาช่วยสนับสนุนแนวคิดของนิโคเลาส์ โคเปอร์นิคัสอย่างชัดเจน ผลงานของกาลิเลโอได้รับการต่อต้านจากศาสนจักรคาทอลิก เนื่องจากขัดแย้งกับความเชื่อที่ว่าโลกเป็นศูนย์กลางของจักรวาล กาลิเลโอถูกบังคับให้สละความเชื่อของเขาและถูกจำคุกเป็นเวลา 10 ปี กาลิเลโอเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1642 ขณะมีอายุได้ 77 ปี แม้จะต้องเผชิญกับการต่อต้านจากศาสนจักร แต่ผลงานของกาลิเลโอก็ยังคงเป็นรากฐานสำคัญของวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ ผลงานของเขาได้เปลี่ยนแปลงมุมมองของมนุษย์เกี่ยวกับจักรวาลและนำไปสู่การพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในยุคต่อมา

นักดาราศาสตร์
นักดาราศาสตร์

อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ (Albert Einstein)

อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ (Albert Einstein) เป็นนักฟิสิกส์ทฤษฎีชาวเยอรมัน ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในนักฟิสิกส์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล ไอน์สไตน์ได้เป็นที่รู้จักกันในการพัฒนาทฤษฎีสัมพัทธภาพ แต่เขายังมีส่วนสำคัญในการพัฒนาทฤษฎีกลศาสตร์ควอนตัมอีกด้วย ไอน์สไตน์เกิดเมื่อวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2422 ที่เมืองอูล์ม ราชอาณาจักรเวือร์ทเทมแบร์ก สมัยจักรวรรดิเยอรมัน ครอบครัวของเขาเป็นชาวยิว ไอน์สไตน์มีความสนใจใน วิทยาศาสตร์ โลก ตั้งแต่เด็ก และเขาเริ่มศึกษาฟิสิกส์อย่างจริงจังเมื่อเขาอายุ 16 ปี ในปี พ.ศ. 2443 ไอน์สไตน์สำเร็จการศึกษาจากสถาบันเทคโนโลยีสวิส ซูริค โดยได้รับปริญญาตรีสาขาฟิสิกส์และปริญญาตรีสาขาคณิตศาสตร์ หลังจากจบการศึกษา ไอน์สไตน์ทำงานเป็นผู้ช่วยนักวิจัยที่สถาบันโพลิเทคนิคแห่งซูริก เขาได้ตีพิมพ์งานวิจัยชิ้นแรกของเขาในปี พ.ศ. 2446 

ซึ่งเกี่ยวข้องกับทฤษฎีของโมเลกุลและอะตอม ในปี พ.ศ. 2450 ไอน์สไตน์ได้ตีพิมพ์บทความสองบทความที่เปลี่ยนโฉมหน้าของฟิสิกส์สมัยใหม่ บทความแรกอธิบายทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเวลาและอวกาศไม่ใช่สิ่งคงที่ แต่ขึ้นอยู่กับความเร็วของวัตถุ บทความที่สองอธิบายทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแรงโน้มถ่วงเกิดจากความโค้งของอวกาศ-เวลา ทฤษฎีสัมพัทธภาพของไอน์สไตน์ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นจริงผ่านการทดลองหลายครั้ง และมันได้กลายเป็นรากฐานของความเข้าใจของเราเกี่ยวกับจักรวาล ไอน์สไตน์ได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ในปี พ.ศ. 2465 สำหรับผลงานของเขาเกี่ยวกับทฤษฎีสัมพัทธภาพ ไอน์สไตน์เสียชีวิตเมื่อวันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2498 ที่เมืองพรินซ์ตัน รัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา ด้วยวัย 76 ปี ผลงานของไอน์สไตน์มีอิทธิพลอย่างมากต่อวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เขาได้เปลี่ยนวิธีที่เราเข้าใจจักรวาล และเขายังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักวิทยาศาสตร์และนักประดิษฐ์มาจนถึงทุกวันนี้

เบนจามิน แฟรงคลิน (Benjamin Franklin)

เบนจามิน แฟรงคลิน (Benjamin Franklin) นักดาราศาสตร์ คือ หนึ่งในบิดาผู้ก่อตั้งประเทศสหรัฐอเมริกา เกิดเมื่อวันที่ 17 มกราคม ค.ศ. 1706 ที่เมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา ในครอบครัวพ่อค้าเทียนไขและสบู่ แฟรงคลินเริ่มทำงานตั้งแต่อายุยังน้อยเพื่อช่วยเหลือครอบครัว เขาเริ่มทำงานเป็นช่างพิมพ์ตั้งแต่อายุ 12 ปี และต่อมาได้ก่อตั้งโรงพิมพ์ของตนเองในฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย แฟรงคลินประสบความสำเร็จอย่างมากในฐานะนักธุรกิจ และเขาใช้ความมั่งคั่งของเขาเพื่อสนับสนุนงานสาธารณะและงานการกุศล แฟรงคลินเป็น 

นักวิทยาศาสตร์ชื่อดัง เขาเป็นผู้คิดค้นสายล่อฟ้า ซึ่งช่วยปกป้องอาคารจากฟ้าผ่า เขายังเป็นผู้ประดิษฐ์แว่นไบโฟคอล เตาแฟรงคลิน และฮาร์โมนิกาแก้ว แฟรงคลินเป็นนักการเมืองที่ประสบความสำเร็จ เขาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาของเพนซิลเวเนีย และเขายังเป็นตัวแทนของอาณานิคมทั้ง 13 แห่งในการประชุม Continental Congress ซึ่งนำไปสู่สงครามประกาศอิสรภาพของสหรัฐอเมริกา แฟรงคลินเป็นทูตคนสำคัญระหว่างสหรัฐอเมริกาและฝรั่งเศสในช่วงสงครามประกาศอิสรภาพ เขาช่วยเจรจาสนธิสัญญาสันติภาพกับฝรั่งเศส ซึ่งทำให้สหรัฐอเมริกาได้รับเอกราชจากอังกฤษ แฟรงคลินเสียชีวิตเมื่อวันที่ 17 เมษายน ค.ศ. 1790 ที่เมืองฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา

นักดาราศาสตร์
นักดาราศาสตร์

เชอร์ เจมส์ แชดวิก ( Sir James Chadwick)

เชอร์ เจมส์ แชดวิก (Sir James Chadwick) เป็นนักฟิสิกส์ชาวอังกฤษ เกิดเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม ค.ศ. 1891 ที่ Bollington ประเทศอังกฤษ จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ และปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ จากนั้นได้ทำงานวิจัยที่มหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ภายใต้การดูแลของเออร์เนสต์ รัทเทอร์ฟอร์ด แชดวิกได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ในปี ค.ศ. 1935 จากการค้นพบอนุภาคนิวตรอนในปี ค.ศ. 1932 ก่อนหน้านี้ วงการฟิสิกส์เชื่อว่านิวเคลียสของอะตอมประกอบไปด้วยโปรตอนและอิเล็กตรอนเท่านั้น 

แต่แชดวิกพบว่ายังมีอนุภาคที่ไม่มีประจุไฟฟ้าอีกชนิดหนึ่งอยู่ในนิวเคลียสด้วย ซึ่งเขาตั้งชื่อว่า “นิวตรอน”การค้นพบนิวตรอนมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาฟิสิกส์อะตอม นิวตรอนเป็นอนุภาคที่มีมวลใกล้เคียงกับโปรตอน แต่ไม่มีประจุไฟฟ้า ทำให้สามารถแทรกซึมผ่านวัสดุได้ง่ายกว่าอนุภาคอื่น ๆ สิ่งนี้ทำให้นิวตรอนมีประโยชน์อย่างมากสำหรับการวิจัยเกี่ยวกับโครงสร้างอะตอมและการทดลองนิวเคลียร์ แชดวิกยังมีส่วนร่วมสำคัญในการพัฒนาระเบิดปรมาณูในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เขาเป็นหัวหน้าทีมอังกฤษที่ทำงานในโครงการแมนฮัตตัน ซึ่งเป็นผู้พัฒนาระเบิดปรมาณูลูกแรกของโลก แชดวิกเสียชีวิตเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ค.ศ. 1974 ที่เมืองเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ

อเลสซานโดร โวลตา (Alessandro Volta)

อเลสซานโดร โวลตา (Alessandro Volta) ประวัตินักวิทยาศาสตร์ เป็นนักฟิสิกส์ชาวอิตาลี เกิดเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1745 ที่เมืองโคโม ประเทศอิตาลี จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยปาเวีย และได้รับตำแหน่งศาสตราจารย์ด้านฟิสิกส์และเคมีที่มหาวิทยาลัยเดียวกัน ผลงานที่สำคัญที่สุดของอเลสซานโดร โวลตา คือ การประดิษฐ์แบตเตอรี่ไฟฟ้า ซึ่งถือเป็นการค้นพบครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์วิทยาศาสตร์ เพราะทำให้กระแสไฟฟ้าสามารถผลิตและใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง แบตเตอรี่ของโวลตาเรียกว่า “กองเชื้อเพลิง” (pile of fuel) ซึ่งประกอบด้วยแผ่นเงินและแผ่นสังกะสีเรียงสลับกัน โดยแต่ละแผ่นจะจุ่มอยู่ในสารละลายกรดซัลฟิวริก 

ปฏิกิริยาเคมีที่เกิดขึ้นระหว่างแผ่นโลหะกับสารละลายกรดซัลฟิวริกทำให้เกิดกระแสไฟฟ้า การประดิษฐ์แบตเตอรี่ของโวลตาได้ปฏิวัติวงการไฟฟ้า เพราะทำให้นักวิทยาศาสตร์สามารถศึกษาและทดลองเกี่ยวกับไฟฟ้าได้อย่างกว้างขวางมากขึ้น ประวัติวิทยาศาสตร์ นอกจากนี้ยังนำไปสู่การประดิษฐ์อุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ ตามมา เช่น มอเตอร์ไฟฟ้า หลอดไฟ และโทรศัพท์ อเลสซานโดร โวลตาได้รับรางวัลมากมายจากผลงานการประดิษฐ์แบตเตอรี่ไฟฟ้าของเขา รวมถึงเหรียญรางวัลค็อปลีย์จากราชสมาคมแห่งลอนดอนในปี ค.ศ. 1800 และเหรียญทองจากสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งฝรั่งเศสในปี ค.ศ. 1801 อเลสซานโดร โวลตาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 5 มีนาคม ค.ศ. 1827 ที่เมืองโคโม ประเทศอิตาลี

นักดาราศาสตร์
นักดาราศาสตร์

ริชาร์ด เทรวิทิก (Richard Trevithick)

ริชาร์ด เทรวิทิก (Richard Trevithick) นักวิทยาศาสตร์ เกิดเมื่อวันที่ 13 เมษายน ค.ศ. 1771 ที่เมือง Treharris ประเทศเวลส์ สหราชอาณาจักร เขาเป็นนักประดิษฐ์และวิศวกรชาวเวลส์ที่มีชื่อเสียง เป็นผู้ประดิษฐ์รถจักรไอน้ำแบบขับเคลื่อนด้วยตัวเองขึ้นเป็นครั้งแรกของโลก เมื่อปี ค.ศ. 1804 เทรวิทิกเกิดในครอบครัวที่ยากจน เขาเริ่มสนใจเครื่องจักรกลตั้งแต่อายุยังน้อย และเริ่มทำงานเป็นช่างตีเหล็กและช่างกลตั้งแต่อายุ 17 ปี เขามีความสนใจในเครื่องจักรไอน้ำเป็นอย่างมาก และพยายามคิดค้นวิธีที่จะปรับปรุงประสิทธิภาพของเครื่องจักรไอน้ำให้ดีขึ้น ในปี ค.ศ. 1804 เทรวิทิกได้ประดิษฐ์รถจักรไอน้ำแบบขับเคลื่อนด้วยตัวเองขึ้นเป็นครั้งแรกของโลก 

โดยใช้ชื่อว่า “Puffing Devil” รถจักรไอน้ำคันนี้สามารถบรรทุกผู้โดยสารและสินค้าได้ 10 ตัน และวิ่งด้วยความเร็ว 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ความสำเร็จของเทรวิทิกในการประดิษฐ์รถจักรไอน้ำได้จุดประกายให้เกิดการปฏิวัติอุตสาหกรรมขึ้น รถไฟกลายเป็นพาหนะขนส่งที่สำคัญในยุคนั้น และช่วยพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งของโลกให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น เทรวิทิกยังมีผลงานการประดิษฐ์อื่นๆ อีกมากมาย เช่น เครื่องจักรไอน้ำสำหรับใช้ขุดแร่ เครื่องจักรไอน้ำสำหรับใช้ผลิตเหล็ก และเครื่องจักรไอน้ำสำหรับใช้เดินเรือ เทรวิทิกเสียชีวิตเมื่อวันที่ 22 กันยายน ค.ศ. 1833 ที่เมือง Dartford ประเทศอังกฤษ

นีเซฟอร์ เนียปส์ (Nicéphore Niépce)

นีเซฟอร์ เนียปส์ (Nicéphore Niépce) เป็น นักประดิษฐ์ของโลก ชาวฝรั่งเศส เป็นผู้ที่ได้ชื่อว่ามีส่วนในการบุกเบิกการถ่ายภาพ เกิดเมื่อวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2308 ที่เมืองชาลง-ซูร์-โซน (Chalon-sur-Saône) ตะวันออกของประเทศฝรั่งเศส เป็นบุตรคนรองในครอบครัวที่มั่งคั่ง มีบิดาประกอบอาชีพทนายความ ได้รับการศึกษาทางด้านฟิสิกส์และเคมี ณ มหาวิทยาลัยในเมืองอ็องเฌ (Angers) และยังได้มีโอกาสเข้าเป็นทหารประจำการในกองกำลังปฏิวัติฝรั่งเศสในปี พ.ศ. 2331 เมื่อออกจากราชการทหาร เนียปส์ไปอาศัยอยู่กับพี่ชายที่เมืองนีซ (Nice) ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส เขาได้เริ่มทดลองกระบวนการถ่ายภาพโดยใช้แผ่นจานหินปูนเคลือบด้วยสารเคลือบไวแสง (emulsion) 

ที่ทำจากน้ำมันสนและยางสน โดยใช้กล้องทาบเงา (camera obscura) ในการรับภาพ เนียปส์ประสบความสำเร็จในการถ่ายภาพถาวรครั้งแรกในปี พ.ศ. 2342 โดยเป็นภาพวิวจากหน้าต่างบ้านของเขาที่เมืองเลอกรา (Le Gras) ใช้เวลาในการถ่ายภาพนานถึง 8 ชั่วโมง เนียปส์ยังคงทำการวิจัยและพัฒนากระบวนการถ่ายภาพต่อไป โดยในปี พ.ศ. 2347 เขาได้คิดค้นกระบวนการถ่ายภาพใหม่โดยใช้แผ่นกระจกเคลือบด้วยสารเคลือบไวแสงที่ทำจากบิทูเมน โดยใช้กล้องทาบเงาในการรับภาพ กระบวนการถ่ายภาพนี้ใช้เวลาในการถ่ายภาพเพียงไม่กี่นาที เนียปส์ได้จดสิทธิบัตรกระบวนการถ่ายภาพนี้ในปี พ.ศ. 2348 เนียปส์เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2376 ผลงานของเนียปส์เป็นจุดเริ่มต้นของการถ่ายภาพ ซึ่งได้พัฒนามาเป็นเทคโนโลยีการถ่ายภาพในปัจจุบัน

นักดาราศาสตร์
นักดาราศาสตร์

อเล็กซานเดอร์ เกรแฮม เบลล์ (Alexander Graham Bell)

อเล็กซานเดอร์ เกรแฮม เบลล์ (Alexander Graham Bell) เป็น บิดาวิทยาศาสตร์โลก นักประดิษฐ์ ผู้ก่อตั้งบริษัท เบลล์ เทเลโฟน (Bell Telephone company) เกิดเมื่อวันที่ 3 มีนาคม ค.ศ. 1847 ที่เมืองเอดินบะระ ประเทศสกอตแลนด์ เบลล์มีความสนใจในด้านการพูดและภาษามาตั้งแต่เด็ก เขาได้ศึกษาด้านสัทศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเอดินบะระและมหาวิทยาลัยยูนิเวอร์ซิตี้ คอลเลจ ลอนดอน ในปี ค.ศ. 1870 เบลล์ได้ย้ายไปอยู่ที่เมืองบรองต์เฟิร์ด ประเทศแคนาดา เพื่อทำงานเป็นผู้ช่วยสอนที่โรงเรียนสอนคนหูหนวก เบลล์ได้เริ่มทดลองประดิษฐ์อุปกรณ์ที่ช่วยให้คนหูหนวกสามารถได้ยินเสียงได้ดีขึ้น ในปี ค.ศ. 1876 เบลล์ได้ประสบความสำเร็จในการประดิษฐ์โทรศัพท์เครื่องแรกของโลก 

ซึ่งสามารถส่งเสียงพูดจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งได้ การประดิษฐ์โทรศัพท์ของเบลล์ถือเป็นการปฏิวัติวงการการสื่อสารของโลก โทรศัพท์ได้ช่วยให้ผู้คนสามารถติดต่อสื่อสารกันได้อย่างรวดเร็วและสะดวกยิ่งขึ้น เบลล์ได้ก่อตั้งบริษัท เบลล์ เทเลโฟน เพื่อผลิตและจำหน่ายโทรศัพท์ ในปี ค.ศ. 1877 บริษัท เบลล์ เทเลโฟนได้วางสายโทรศัพท์สายแรกในสหรัฐอเมริกา เบลล์ได้ทำการวิจัยและพัฒนาในด้านการสื่อสารอย่างต่อเนื่อง นอกจากโทรศัพท์แล้ว เบลล์ ชื่อนักวิทยาศาสตร์โลก ยังได้ประดิษฐ์อุปกรณ์สื่อสารอื่นๆ เช่น โทรศัพท์ไร้สาย โทรเลขใต้น้ำ และเครื่องบันทึกเสียง เบลล์ยังเป็นผู้ก่อตั้งสถาบันแมคเคนซี่ (Mackenzie Institute) เพื่อศึกษาและวิจัยในด้านการสื่อสาร เบลล์เสียชีวิตเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ค.ศ. 1922 ที่เมืองเบ็นน์ บรีอาห์ ประเทศแคนาดา เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นบิดาแห่งโทรศัพท์และเป็นผู้มีส่วนสำคัญในการปฏิวัติวงการการสื่อสารของโลก

หลุยส์ ปาสเตอร์ (Louis Pasteur)

หลุยส์ ปาสเตอร์ เป็นนักเคมีและนักจุลชีววิทยาชาวฝรั่งเศสที่มีชื่อเสียงในด้านผลงานของเขาในการพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคหลายชนิด รวมถึงโรคพิษสุนัขบ้า วัณโรค แอนแทรกซ์ และโรคคอตีบ เขายังเป็นที่รู้จักจากการค้นพบการฆ่าเชื้อแบบพาสเจอร์ไรซ์เซชัน ซึ่งเป็นกระบวนการที่ใช้ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียในอาหารและเครื่องดื่ม ปาสเตอร์เกิดเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2365 ที่เมืองโดล ประเทศฝรั่งเศส เขาเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยเบซากองและมหาวิทยาลัยปารีส และสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกด้านวิทยาศาสตร์ในปี พ.ศ. 2390 ปาสเตอร์เริ่มอาชีพของเขาในฐานะนักเคมี และผลงานชิ้นแรกของเขาเกี่ยวข้องกับการศึกษาผลึก ผลงานของ นักวิทยาศาสตร์ เขาค้นพบว่าผลึกแต่ละชนิดมีโครงสร้างทางเรขาคณิตเฉพาะตัว และสิ่งนี้นำไปสู่ความเข้าใจที่ดีขึ้นเกี่ยวกับธรรมชาติของวัสดุ 

ในปี พ.ศ. 2403 ปาสเตอร์เริ่มทำงานด้านจุลชีววิทยา และเขาได้ค้นพบว่าจุลินทรีย์เป็นสาเหตุของโรคหลายชนิด เขาใช้ความรู้นี้เพื่อพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในปี พ.ศ. 2410 ซึ่งเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญในทางการแพทย์ ปาสเตอร์ยังเป็นที่รู้จักจากการค้นพบการฆ่าเชื้อแบบพาสเจอร์ไรซ์เซชัน ซึ่งเขาพัฒนาขึ้นเพื่อปรับปรุงความปลอดภัยของอาหารและเครื่องดื่ม นักวิทยาศาสตร์โลก เขาพบว่าความร้อนสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งทำให้อาหารและเครื่องดื่มสามารถเก็บไว้ได้นานขึ้นโดยไม่ต้องเน่าเสีย ปาสเตอร์ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ผลงานของเขามีผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อการแพทย์ อาหาร และอุตสาหกรรมอื่นๆ และช่วยชีวิตผู้คนนับล้าน

นักดาราศาสตร์

ติดตามข่าวสารได้ที่นี่ : https://AstronomyMoon.com

อ่านบทความเพิ่มเติม : ดาวฤกษ์มีกี่ดวง