กาแล็กซีกังหัน

กาแล็กซีกังหัน (Spiral galaxy)

กาแล็กซีกังหัน (Spiral galaxy) เป็นกาแล็กซีที่พบได้บ่อยที่สุดในเอกภพ คิดเป็นประมาณ 70% ของกาแล็กซีทั้งหมด รวมถึงกาแล็กซีทางช้างเผือกที่เป็นที่ตั้งของโลกของเราด้วย การก่อตัวของ กาแล็กซีกังหัน ยังไม่เป็นที่เข้าใจอย่างถ่องแท้นัก แต่นักดาราศาสตร์เชื่อว่าเกิดจากการชนกันของกาแล็กซีขนาดเล็กหลายกาแล็กซีเข้าด้วยกัน แรงโน้มถ่วงระหว่าง กาแล็กซี เหล่านี้จะดึงดูดให้ดาวฤกษ์ ฝุ่น และแก๊สมารวมตัวกันจนเกิดเป็นกาแล็กซีกังหัน กาแล็กซีกังหันเป็นสถานที่ที่มีการก่อตัวของดาวฤกษ์อยู่ตลอดเวลา ดาวฤกษ์เกิดใหม่เหล่านี้มักพบอยู่บริเวณแขนของกาแล็กซี เนื่องจากมีแก๊สและฝุ่นละอองในปริมาณมากเป็นแหล่งกำเนิดของดาวฤกษ์ กาแล็กซีกังหัน มีบทบาทสำคัญในเอกภพ เป็นแหล่งกำเนิดของดาวฤกษ์และกาแล็กซีบริวาร นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งกำเนิดของรังสีคอสมิกและคลื่นวิทยุ

กาแล็กซี-กังหัน

กาแล็กซีกังหันประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก

  • ส่วนใจกลาง (bulge) เป็นส่วนที่มีความหนาแน่นของดาวฤกษ์สูงที่สุด ประกอบด้วยดาวฤกษ์ที่มีอายุมากและดาวฤกษ์มวลมาก
  • ส่วนจาน (disk) เป็นส่วนที่มีดาวฤกษ์และฝุ่นแก๊สกระจุกตัวอยู่ เป็นส่วนที่มีการก่อตัวของดาวฤกษ์อยู่
  • ส่วนเฮโล (halo) เป็นส่วนที่อยู่รอบนอกของกาแล็กซี ประกอบด้วยดาวฤกษ์เก่าแก่ กระจุกดาวทรงกลม และกลุ่มดาวแคระ
ลักษณะกาแล็กซีกังหัน

การกำเนิดกาแล็กซีกังหัน

กาแล็กซี่คืออะไร การกำเนิด กาแล็กซีกังหัน นั้นสันนิษฐานว่าเกิดขึ้นจากกระบวนการที่เรียกว่า “การยุบตัว (collapse)” ของกลุ่มเมฆก๊าซและฝุ่นละอองขนาดใหญ่ เมื่อกลุ่มเมฆก๊าซและฝุ่นละอองเหล่านี้ยุบตัวลง แรงโน้มถ่วงจะดึงดูดก๊าซและฝุ่นละอองเหล่านั้นให้มารวมตัวกันหนาแน่นขึ้น ส่งผลให้เกิดการก่อตัวของดาวฤกษ์และกระจุกดาวฤกษ์จำนวนมาก ดาวฤกษ์ ดาวกาแล็กซี่ เหล่านี้จะแผ่รังสีออกมา ส่งผลให้ก๊าซและฝุ่นละอองที่อยู่โดยรอบเกิดการหมุนวนไปด้วย การหมุนวนนี้เองที่เป็นสาเหตุให้เกิดการก่อตัวของแขนของกาแล็กซี นอกจากนี้ ยังมีหลักฐานที่ชี้ให้เห็นว่า เอกภพและกาแล็กซี่ กังหันบางแห่งอาจเกิดจากการชนกันของ กาแล็กซี่คือ ขนาดเล็กหลายแห่งเข้าด้วยกัน จากการชนกันนี้ กาแล็กซีขนาดเล็กหลายแห่งจะหลอมรวมเข้าด้วยกันเป็นกาแล็กซีขนาดใหญ่ที่มีรูปร่างคล้ายกังหัน กาแล็กซี กังหัน ทางช้างเผือกของเรา ก็เป็นกาแล็กซีกังหันที่มีขนาดใหญ่มาก ประกอบด้วยดาวฤกษ์ประมาณ 2 พันล้านดวง กาแล็กซีทางช้างเผือกของเรามีรูปร่างคล้ายกังหัน โดยมีแขนกาแล็กซีแผ่ออกไปจากส่วนใจกลาง 4 แขน ระบบสุริยะของเราตั้งอยู่บริเวณขอบของกาแล็กซีทางช้างเผือก โดยดวงอาทิตย์ของเราอยู่ห่างจากใจกลางกาแล็กซีทางช้างเผือกไปประมาณ 26,000 ปีแสง

กาแล็กซีกังหันแบ่งออกได้ 2 ประเภท

กาแล็กซีกังหัน

กาแล็กซีกังหันแบบธรรมดา (Normal Spiral Galaxy)

ปรากฏการณ์ ฝน ดาวตก และการเคลื่อนที่ ฝนดาวตกลีโอนิดส์ เกิดจากการที่โลกโคจรตัดผ่านสายธารของเศษหินและเศษฝุ่นขนาดน้อยใหญ่ของ ดาวหาง 55พี เทมเพล-ทัตเทิล (55P Tempel-Tuttle) ซึ่งโคจรรอบดวงอาทิตย์ทุกๆ 33 ปี ลักษณะการเคลื่อนที่ของฝนดาวตกลีโอนิดส์ ดาวตกส่วนใหญ่จะมีความเร็วสูงมาก ประมาณ 71 กิโลเมตรต่อวินาที จึงทำให้มองเห็นได้ยากกว่าฝนดาวตกชนิดอื่นๆ นอกจากนี้ ฝนดาวตกลีโอนิดส์ยังมีลักษณะเด่นคือ ดาวตก ส่วนใหญ่จะปรากฏขึ้นจากจุดศูนย์กลางการกระจายบริเวณกลุ่มดาวสิงโต จากนั้นจะกระจายตัวออกสู่ท้องฟ้าทั่วทุกทิศทาง

กาแล็กซีกังหัน

กาแล็กซีกังหันแบบมีคาน (Barred spiral galaxy)

กาแล็กซีกังหันแบบมีคาน มีแขนกาแล็กซีแผ่ออกมาจากคานยาวที่ยื่นออกมาจากส่วนป่อง และเป็นกาแล็กซีที่มีโครงสร้างคล้ายคานพาดผ่านส่วนใจกลาง แบ่งแยกย่อยเป็น 3 แบบ โดยใช้สัญลักษณ์ คือ SBa SBb และ SBc ซึ่งมีรูปร่างแตกต่างกัน คือ SBa มีส่วนใจกลางใหญ่มาก สังเกตเห็นส่วนคานไม่ชัดเจน SBb มีส่วนใจกลางใหญ่ปานกลาง สังเกตเห็นส่วนคานชัดเจน และ SBc มีส่วนใจกลางเล็กมองเห็นคานยาวชัดเจน กาแล็กซีกังหันแบบมีคานพบได้ประมาณ 40% ของกาแล็กซีทั้งหมดในเอกภพ 

กาแล็กซีทางช้างเผือกที่โลกของเราอาศัยอยู่ก็เป็น กาแล็กซี กังหันแบบมีคานเช่นกัน โครงสร้างคล้ายคานในกาแล็กซีกังหันแบบมีคานมีบทบาทสำคัญต่อการกำเนิดดาวฤกษ์ ฝุ่นและแก๊สในคานจะรวมตัวกันจนหนาแน่นพอที่จะก่อตัวเป็นดาวฤกษ์ได้ ส่งผลให้ แกแล็คซี่ กังหันแบบมีคานมีอัตราการก่อตัวของดาวฤกษ์สูงกว่ากาแล็กซีแบบกังหันที่ไม่มีคาน นอกจากนี้ โครงสร้างคล้ายคานในกาแล็กซีกังหันแบบมีคานยังมีบทบาทในการกระจายสสารในกาแล็กซีอีกด้วย แรงจากคานจะดึงดูดสสารจากจานของกาแล็กซีให้มารวมตัวกันบริเวณใจกลาง ส่งผลให้ใจกลางกาแล็กซีมีมวลเพิ่มขึ้น

ติดตามข่าวสารได้ที่นี่ : https://AstronomyMoon.com

อ่านบทความเพิ่มเติม : กาแล็กซีรี