ดาวเคราะห์แคระ

ดาวเคราะห์แคระมีอะไรบ้าง

ดาวเคราะห์แคระมีอะไรบ้าง ดาวเคราะห์แคระส่วนใหญ่อยู่ในแถบไคเปอร์ บริเวณนอกวงโคจรของดาวเนปจูน นอกจากนี้ยังมี ดาวเคราะห์แคระหมายถึง ดาวเคราะห์แคระบางดวงที่โคจรรอบดวงอาทิตย์ในแถบดาวเคราะห์น้อยระหว่างวงโคจรของดาวอังคารและดาวพฤหัสบดี ดาวเคราะห์แคระคืออะไร การจำแนกดาวเคราะห์แคระเกิดขึ้นเนื่องจากมีการค้นพบวัตถุในระบบสุริยะที่มีขนาดใหญ่และมีลักษณะคล้ายดาวเคราะห์มากขึ้นเรื่อย ๆ เดิมทีดาวพลูโตถูกจัดเป็นดาวเคราะห์ดวงที่ 9 แต่หลังจากมีการค้นพบวัตถุขนาดใหญ่ในแถบไคเปอร์มากมาย สหพันธ์ดาราศาสตร์สากลจึงมีมติให้เปลี่ยนสถานะของดาวพลูโตเป็นดาวเคราะห์แคระ เพื่อให้สอดคล้องกับเกณฑ์การจำแนก วงจรดาวเคราะห์ ที่ใหม่กว่า การจำแนก ดาวเคราะห์แคระคือ ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ เนื่องจากยังมีวัตถุในระบบสุริยะอีกหลายดวงที่อาจมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์การจำแนกดาวเคราะห์แคระ ในอนาคตอาจมีการค้นพบวัตถุใหม่ ๆ ที่สามารถจัดเป็นดาวเคราะห์แคระได้มากขึ้น ดาวเคราะห์แคระมีกี่ดวง มีดาวเคราะห์แคระที่ได้รับการรับรองจากสหพันธ์ดาราศาสตร์สากล (International Astronomical Union) ดาวเคราะห์แคระ 5 ดวง  เรามาดูกันเลยดีกว่าว่ามีดาวอะไรบ้าง

ซีรีส (Ceres)

ดาวเคราะห์แคระมีอะไรบ้าง ดาวเคราะห์แคระซีรีส (Ceres) เป็น ดาวเคราะห์แคระในระบบสุริยะ ดวงเดียวใน ระบบสุริยะ ชั้นในและเป็นดาวเคราะห์น้อยดวงใหญ่ที่สุด ค้นพบโดยจูเซปเป ปีอัซซี นักดาราศาสตร์ชาวอิตาลี เมื่อวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1801 ตั้งชื่อตามซีรีส เทพีโรมันแห่งการปลูกพืช เก็บเกี่ยวและความรักอย่างมารดา ซีรีสมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 950 กิโลเมตร ประกอบด้วยมวลประมาณ 1 ใน 3 ของมวลทั้งหมดในแถบดาวเคราะห์น้อย พื้นผิวของซีรีสประกอบด้วยน้ำแข็งและธาตุที่ถูกไฮเดรต เช่น คาร์บอเนตและดินเหนียว จำแนกเป็นแก่นหินและแมนเทิลน้ำแข็ง และอาจมีมหาสมุทรน้ำในสถานะของเหลวกักเก็บไว้ใต้พื้นผิว ดาวซีรีสโคจรรอบดวงอาทิตย์อยู่ระหว่างดาวอังคารและดาวพฤหัสบดี ใช้เวลาโคจรครบรอบ 1,682 วัน แกนหมุนของซีรีสเอียง 98 องศา 

ซึ่งหมายความว่าซีรีสมีขั้วเหนือและใต้อยู่ใกล้กับระนาบโคจรรอบดวงอาทิตย์ ในปี ค.ศ. 2015 ยานอวกาศ Dawn ของนาซาได้เข้าโคจรรอบซีรีสเป็นเวลา 3 ปี ยานอวกาศ Dawn ได้ถ่ายภาพพื้นผิวของซีรีสอย่างละเอียด และพบว่าซีรีสมีหลุมอุกกาบาตจำนวนมาก ภูเขาไฟน้ำแข็ง และพื้นที่ราบขนาดใหญ่ จากการสำรวจของยานอวกาศ Dawn นักวิทยาศาสตร์ เชื่อว่าซีรีสอาจมีมหาสมุทรน้ำในสถานะของเหลวกักเก็บไว้ใต้พื้นผิว มหาสมุทรนี้อาจเกิดขึ้นจากการชนกันของดาวเคราะห์น้อยขนาดใหญ่เมื่อหลายพันล้านปีก่อน มหาสมุทรนี้อาจเป็นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตในอดีตหรือปัจจุบัน ซีรีสเป็นวัตถุอวกาศที่น่าสนใจและมีความสำคัญต่อการศึกษาการก่อตัวของ ระบบสุริยะ นักวิทยาศาสตร์ยังคงศึกษาซีรีสต่อไป เพื่อค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแหล่งกำเนิด องค์ประกอบ และประวัติของดาวเคราะห์แคระดวงนี้

ดาวเคราะห์แคระมีอะไรบ้าง

พลูโต (Pluto)

ดาวเคราะห์แคระมีอะไรบ้าง ดาวเคราะห์แคระพลูโต (Pluto) เป็นดาวเคราะห์แคระที่อยู่ห่างจากดวงอาทิตย์เป็นอันดับ 10 จาก 8 ดวงในระบบสุริยะของเรา รัศมีของดาวพลูโตประมาณ 1,137 กิโลเมตร ซึ่งใหญ่กว่าดวงจันทร์โลกเพียงเล็กน้อย ดาวพลูโตมีวงโคจรเป็นวงรีมาก โดยอยู่ห่างจากดวงอาทิตย์มากที่สุดประมาณ 5.9 พันล้านกิโลเมตรและอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์มากที่สุดประมาณ 4.4 พันล้านกิโลเมตร ดาวพลูโตใช้เวลา 248 ปีในการโคจรรอบดวงอาทิตย์หนึ่งรอบ พื้นผิวของดาวพลูโตปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งไนโตรเจน น้ำแข็งมีเทน และน้ำแข็งคาร์บอนมอนออกไซด์ พื้นผิวของดาวพลูโตมีหลุมอุกกาบาตจำนวนมาก ภูเขาน้ำแข็ง และธารน้ำแข็ง ดาวพลูโต มีดวงจันทร์บริวาร 5 ดวง ได้แก่ แครอน (Charon), ไฮดรา (Hydra), นิกซ์ (Nix), เคอร์เบอรอส (Kerberos) และสติกซ์ (Styx) แครอนเป็นดวงจันทร์ที่ใหญ่ที่สุดของดาวพลูโต และมีขนาดใกล้เคียงกับดาวพลูโตมากจนดูเหมือนดาวทั้งสองดวงโคจรรอบกันและกัน ดาวพลูโตถูกค้นพบในปี 1930 โดย Clyde Tombaugh นักดาราศาสตร์ชาวอเมริกัน ดาวพลูโตเคยถูกจัดเป็นดาวเคราะห์ดวงที่ 9 ในระบบสุริยะ แต่ในปี 2006 สหพันธ์ดาราศาสตร์สากลได้เปลี่ยนสถานะดาวพลูโตเป็นดาวเคราะห์แคระ เนื่องจากดาวพลูโตไม่ตรงตามเกณฑ์ทั้งหมดที่กำหนดไว้สำหรับดาวเคราะห์

อีริส (Eris)

ดาวเคราะห์แคระมีอะไรบ้าง ดาวเคราะห์แคระอีริส (Eris) เป็นหนึ่งในดาวเคราะห์แคระที่ใหญ่ที่สุดในระบบสุริยะ ตั้งอยู่ในแถบไคเปอร์ (Kuiper Belt) อยู่ห่างจากดวงอาทิตย์ประมาณ 67 AU (หน่วยดาราศาสตร์) มีมวลมากกว่าดาวพลูโตเล็กน้อย ส่งผลให้การค้นพบ ดาวอีริส ก่อให้เกิดข้อถกเถียงกันในวงการนักดาราศาสตร์ว่าควรนับอีริสเป็น “ดาวเคราะห์” หรือไม่ การอภิปรายในหัวข้อนี้นำไปสู่การถอดสถานะ “ดาวเคราะห์” จากดาวพลูโตในปี ค.ศ.2006 ดาวอีริสถูกค้นพบครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม ค.ศ.2003 โดยทีมนักดาราศาสตร์ที่นำโดยไมเคิล อี. บราวน์ (Michael E. Brown) จากสถาบันเทคโนโลยีแคลิฟอร์เนีย (California Institute of Technology) ตอนแรกทีมผู้ค้นพบเชื่อว่าอีริสเป็นดาวเคราะห์ดวงที่สิบในระบบสุริยะ แต่การอภิปรายในหัวข้อนี้นำไปสู่การถอดสถานะ “ดาวเคราะห์” จากดาวพลูโตในปี ค.ศ.2006 โดยสหพันธ์ดาราศาสตร์สากล (International Astronomical Union) ดาวอีริสจึงถูกจัดเป็นดาวเคราะห์แคระ

เฮาเมอา (Haumea)

ดาวเคราะห์แคระมีอะไรบ้าง เฮาเมอา เป็นดาวเคราะห์แคระดวงหนึ่งในแถบไคเปอร์ มีมวลขนาดหนึ่งในสามของดาวพลูโต ถูกค้นพบในปี พ.ศ. 2547 โดยไมเคิล อี. บราวน์ และทีมค้นหาจากสถาบันเทคโนโลยีแคลิฟอร์เนีย (แคลเทค) และหอดูดาวเมานาเคอาในสหรัฐอเมริกา และในปี พ.ศ. 2548 โดยโฆเซ ลุยส์ ออร์ติซ โมเรโน และทีมค้นหาจากหอดูดาวซิเอร์ราเนบาดาในประเทศสเปน (แต่การอ้างว่าเป็นผู้ค้นพบของฝ่ายหลังถูกโต้แย้ง) ในวันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2551 สหภาพดาราศาสตร์นานาชาติได้จัดดาวดวงนี้ให้อยู่ในกลุ่มของดาวเคราะห์แคระ และตั้งชื่อตาม ดาวเฮาเมอา เทพีแห่งการให้กำเนิดของชาวฮาวาย เฮาเมอามีรูปร่างคล้ายมันฝรั่ง ยาวประมาณ 2,322 กิโลเมตร กว้างประมาณ 1,026 กิโลเมตร และมีอัตราส่วนความยาวต่อความกว้างสูงถึง 2:1 สันนิษฐานว่ารูปร่างเช่นนี้เป็นผลมาจากการชนกันครั้งใหญ่กับวัตถุขนาดใหญ่ในอดีต 

ซึ่งทำให้เฮาเมอาหมุนรอบตัวเองอย่างรวดเร็วในระยะเวลาเพียง 0.29 วัน เฮาเมอามีดวงจันทร์บริวาร 2 ดวง คือ ฮีอีอากา (Hiʻiaka) และนามากา (Namaka) ซึ่งตั้งชื่อตามเทพธิดาในตำนานของชาวฮาวาย ฮีอีอากาเป็นดวงจันทร์บริวารที่ใหญ่กว่าและมีวงโคจรที่ไกลกว่านามากา เฮาเมอาเป็นวัตถุที่มีน้ำแข็งจำนวนมากบนพื้นผิว คาดว่าเกิดจากการชนกันครั้งใหญ่ในอดีต ซึ่งทำให้น้ำแข็งใต้พื้นผิวโผล่ขึ้นมา ดาวเคราะห์แคระดวงนี้จึงมีสีสันสดใสและสะท้อนแสงได้ดี อุณหภูมิพื้นผิวของเฮาเมอาอยู่ที่ประมาณ -240 องศาเซลเซียส

ดาวเคราะห์แคระมีอะไรบ้าง

มาคีมาคี (Makemake)

ดาวเคราะห์แคระได้แก่ ดาวเคราะห์แคระมาคีมาคี (Makemake) เป็นดาวเคราะห์แคระที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 3 ในระบบสุริยะ (เท่าที่ค้นพบแล้วในขณะนี้) และเป็นหนึ่งในสองวัตถุที่ใหญ่ที่สุดของแถบไคเปอร์ (KBO) ซึ่งอยู่ในหมู่วัตถุชั้นเอกของแถบไคเปอร์ ดาวมาคีมาคีมีเส้นผ่านศูนย์กลางสามในสี่ของดาวพลูโต ไม่มีดวงจันทร์บริวาร ซึ่งแปลกจากวัตถุขนาดใหญ่อื่น ๆ แถบไคเปอร์ด้วยกัน อุณหภูมิเฉลี่ยที่ต่ำมากของดาวดวงนี้ (ประมาณ 30 เคลวิน) แสดงให้เห็นว่าพื้นผิวของมันถูกปกคลุมด้วยมีเทน อีเทน และอาจจะมีไนโตรเจนแข็งด้วย ดาวมาคีมาคี เป็นหนึ่งในวัตถุที่น่าสนใจที่สุดในแถบไคเปอร์ เนื่องจากมีรูปร่างที่ผิดปกติ ไม่มีดวงจันทร์บริวาร และโคจรรอบดวงอาทิตย์ในทิศทางตรงกันข้ามกับดาวเคราะห์ส่วนใหญ่ในระบบสุริยะ

ติดตามข่าวสารได้ที่นี่ : https://AstronomyMoon.com

อ่านบทความเพิ่มเติม : ดาวเคราะห์หิน